รอยต่อระหว่างม ต้น กับ ม ปลายตอบ: 7, อ่าน: 1933
คือผมเป็นคนที่ไม่เอาการเรียนเลยอะครับตอน ม ต้น เลขหลับทุกคาบ
แล้วตอนนี้ผมสอบเทียบเอาวุฒิ ม หก แล้ว
คือว่า ผมมีเวลาไม่มากอะครับที่จะอ่านหนังสือ เพราะจะไปสอบเข้าวิศว อินเตอร์
จะไม่อ่านเลข ของม ต้น ก่อนได้มั้ยคับ(ค่อยกลับมาอ่านตอนมีเวลาแล้ว) หรือต้องอ่านเรื่องไหน เรื่องไหนไม่จำเป็น
คือต้องอ่านหลายวิชามากอะครับ อังกฤษ เคมี ฟิสิก
scale
ผมมานั่งนึกๆ ดูแล้ว การจะเรียนวิศวะให้รอดได้ ต้องรู้เรื่อง ม.ต้น ครบทุกอย่างครับ
ดังนั้น อาจจะขัดใจไปนิดแต่ผมต้องขอตอบว่า ควรอ่าน ม.ต้น ทุกหัวข้อก่อนเลยครับ
ถ้าบังเอิญว่าเข้าใจทุกอย่างอยู่แล้ว ก็จะใช้เวลาพลิกทบทวนแค่ไม่นาน ไม่กี่ชั่วโมงก็จบ
แต่ถ้าพบหัวข้อไหนที่ยังไม่เข้าใจ หรือยังไม่คล่อง จะต้องให้เวลาฝึกกับมันหน่อยครับ
การไปสู่เนื้อหา ม.ปลาย โดยยังไม่รู้เรื่อง ม.ต้น บางอย่าง ไม่ดีในระยะยาวแน่ๆ ครับ
ก็เหมือนกับจะฝึกร้องเพลงโดยยังพูดไม่ชัด ฝึกดำน้ำโดยยังว่ายน้ำไม่เป็น ฯลฯ
จะว่าไปก็เป็นเรื่องที่ทำได้ครับ แต่คงไม่ใช่การเริ่มต้นที่ดีครับผม :P
นวย
ขอบคุณมากครับที่แนะนำ
เสียดายเวลาที่ไม่ได้ตั้งใจเรียน ตอน ม ต้น จังเพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าเรียนไปทำไม
scale
นึกอะไรขึ้นมาได้เรื่องนึง เห็นว่าต่อเนื่องกันได้กับกระทู้นี้ ขอเล่านะครับ :P
..เวลามีน้อง ม.ปลาย มาถามผมว่า จะเรียนเลขไปทำไม ไม่เห็นได้ใช้ในชีวิตเลย
ผมก็จะตอบว่า เรียนเพื่อเอาไปใช้ในระดับมหา'ลัย อยู่เรื่อยมาครับ 😁
(ที่ต้องเรียนหลากหลาย ก็เพราะในมหา'ลัยต่างสาขากันอาจนำคณิตศาสตร์ไปใช้ต่างมุมกัน)
แต่พอถึงคำถามที่ว่า แล้ว Cal-Prob-Stat ระดับมหา'ลัย เรียนไปทำไมลึกๆ เยอะๆ
ในเมื่อตอนทำงานก็แทบไม่ได้ใช้อยู่ดี.. ผมก็เริ่มจะตอบไม่ได้ซะแล้ว
ถ้าตอบว่าเพื่อเอาเกรด, เพื่อให้เรียนจบ ก็อาจจะถูกใจน้องๆ แต่คงไม่ใช่จุดประสงค์จริงๆ แน่ๆ
มีอยู่คำตอบหนึ่งครับ ที่น้องๆ ไปถามมาจากอาจารย์ แล้วผมก็ว่า นี่แหละใช่เลย!
ท่านบอกว่า.. "คณิตศาสตร์ ไม่ได้เรียนเพื่อเอาไปใช้หมดทุกอย่าง
แต่เป็นวิธีที่ทำให้เราได้ฝึกตรรกะ และกระบวนการคิดให้เป็นระบบ ต่างหาก"
คิดดูแล้วก็จริงนะครับ แต่ละบทล้วนมีกลไกของมันให้เราเรียนรู้จริงๆ
นวย
ให้ดาวบ้างได้ไหมคะ ความเห็นที่ 3 เนี่ย 👍
Shauฯ
ผมเองครับบบ เคยคิดจะเข้าสายศิลป์มาแล้ว เพราะไม่ชอบเลขเลย
ทำไม่ได้เลยยยยย จริงจริ๊งงง
แต่เพราะความรักทำให้คนตาบอด เอ๊ย คนที่ผมแอบปลื้มเค้าเก่งมาก
ตอนม.3เลยเริ่มแก้รื้อฟื้นความเข้าใจใหม่หมดเลย
แล้วเนื่องจากไม่รู้เรื่องเลขเลย แต่อยากให้เก่ง
เลยต้องพยายามเรียนให้ถูกวิธี จะได้ฟื้นความรู้ได้เร็วที่สุด
เวลาจะทำแต่ละบทก็เลยต้องพิสูจน์ และอาศัยความเข้าใจเป็นหลัก
พิสูจน์เรื่อยๆ หาที่มาที่ไป แล้วก็ทำโจทย์ จะได้ใช้บ่อยๆ
จำได้ว่าเริ่มจากวิชาพีชคณิต และเลขยกกำลัง จะได้ฝึกความมีระเบียบ มีขั้นมีตอน
จัดการกับกลุ่มตัวแปรต่างๆ
ตามด้วยเรขาคณิตเลย พิสูจน์ไปเรื่อยๆๆๆ ตั้งแต่เส้นตรงเส้นขนาน
สมัยนั้นเป็นคนความอดทนต่ำ
ทำโจทย์วงกลมได้สัก100ข้อก็ถือว่ามหัศจรรย์สำหรับตัวเองแล้ว อิอิ
แล้วก็มาทำโจทย์ปัญหา พวกสมการน่ะครับ
จากเกรด2 เลยได้เกรด 4 แล้วก็ได้หันเหตัวเองมาเรียนสายวิทย์ในที่สุด
int.anti
คนเราฝึกฝนตัวเองกันได้ครับ
ถ้าคนไหนกลับตัวเร็วก็ดีไป แต่ถ้ากลับตัวช้านี่ก็อาจมีปัญหา
sun
อย่างนักว่ายน้ำก็ต้องกลับตัวเร็วๆ ครับ ..อ้าว ไม่เกี่ยว! อย่าเพิ่งตลก :P
คือจะบอกว่า น้องที่พี่นวยเคยสอนก็มีเยอะที่กลับตัวได้ตอน ม.ปลาย แล้วก็ได้คณะดีๆ ที่ปรารถนา
เห็นแล้วเลยมายืนยันว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจจริงๆ ครับ ใจสู้ก็ไปถึง ใจไม่สู้ก็ไปไม่ถึงครับ..
นวย